เมื่อ
Smart Card
2. Smart Card
Smart Card แบบ
หากพูดถึงความสามารถของ Smart Card แล้ว คงมาจากแผงวงจรรวม (IC) ที่ฝังอยู่ในบัตรพลาสติก ซึ่งเราสามารถที่จะทำให้มันมีการทำงานทางอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะเดียวกันนี้ ด้วยการฝังวงจรรวม (IC) ที่คล้ายคลังกันนี้ในวัตถุอื่น ๆ ที่ใช้งานกันอยู่ทุกวัน แล้วด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของบัตรก็คือ สิ่งที่เรียกว่า แท็ก (Tags) โดยแท็กทำหน้าที่เป็นเสมือน Smart Card ที่ไม่มีการสัมผัส แต่อยู่ในรูปของเหรียญ แหวน หรือแม้แต่ป้ายติดกระเป๋า แทนที่จะอยู่ในรูปบัตร โดยทั่ว ๆ ไปมีการนำมันไปติดยึดไว้กับวัตถุ หรือสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้สามารถควบคุมหรือป้องกันข้อมูลโดยไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับวัตถุนั้น ๆ ทำให้สามารถควบคุม และจัดการกับสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลในลักษณะ manual data handling ด้วยระบบจัดการข้อมูล
นอกจากนี้อีกไม่นานก็จะมีการใช้ไบโอเมทตริค (Biometric) ที่ช่วยให้การตรวจสอบความถูกต้องของบุคคลได้จากมือ ลายนิ้วมือ เยื่อภายในลูกตา หรือเสียงพูด และต่อไปในไม่ช้านี้อาจมีทางเป็นไปได้ที่จะตรวจรับรองการใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ใน Smart Card ได้ โดยใช้คำพูดหรือมือสัมผัส
Smart Card มีข้อดีหลายประการที่ควรกล่าวถึง คือ
พิสูจน์แล้วว่ามีความไว้วางใจได้ดีกว่าบัตรที่ใช้แถบแม่เหล็ก
- สามารถ
เก็บ สะ สม ข้อ มูล ได้ มาก กว่า บัตร ที่ ใช้ แถบ แม่ เหล็ก เป็น ร้อย ๆ เท่า - ลด
โอกาส ที่ จะ เข้า ไป ยุ่ง เกี่ยว และ ป้อง กัน การ ปลอม แปลง ด้วย ระบบ ป้อง กัน ที่ ซับ ซ้อน - สามารถ
เปลี่ยน มือ และ นำ กลับ มา ใช้ ใหม่ ได้ - ทำ
หน้า ที่ ต่าง ๆ ได้ มาก มาย - สามารถ
นำ ไป ใช้ ใน งาน ต่าง ๆ ได้ อย่าง กว้าง ขวาง เช่น การ ขน ส่ง ธนาคาร และ การ รักษา สุข ภาพ เป็น ต้น - สามารถ
ประยุกต์ ใช้กับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ แบบ พก พา ต่าง ๆ ได้ เช่น เครื่องโทรศัพท์ และเครื่องคอมพิวเตอร์ กระเป๋า หิ้ว - ทำ
งาน ด้วย เทคโนโลยี เซ มิ คอนดัคเตอร์ที่ มี การ พัฒนา อย่าง รวด เร็ว
ในสังคมยุคใหม่ต้องการข้อมูลข่าวสารมากมาย Computer ช่วยให้เราสามารถจัดการกับข่าวสารเหล่านี้ได้Smart Card จะช่วยให้เรามีหนทางใหม่ในการจัดการและควบคุมข่าวสารดังกล่าวได้ด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยีของ Smart Card ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองได้ และยังเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย
แหล่งที่มา : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/smart_c.htm